ตลาดรถยนต์ประเทศไทย
ปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับหลังวิกฤติโควิด-19 ผ่อนคลายไปนทิศทางบวก
ล่าสุด ปิดยอดเดือนสิงหาคม ที่ 68,883 คัน ลดลง 12.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีขายสะสม 8 เดือนแรกของปีที่ 448,006 คัน ลดลง 32.9% เป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภค หลังรัฐบาลผ่อนคลายให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้
ภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ดีขึ้นเป็นลำดับ
โดยในเดือนสิงหาคมปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นนต่อเนื่องเป็นเดือนที่
4 หลังจากที่รัฐบาลได้ดำเนินการผ่อนคลายให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้
ประกอบกับการที่รัฐบาลออกมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19
ทั้งมาตรการด้านการเงินและการคลังเพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการโดยทั่วไป
ส่งผลในเชิงบวกให้กับตลาดรถยนต์
โดยในเดือนสิงหาคม
มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 68,883 คัน ลดลง 12.1% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 21,300 คัน ลดลง 30.3% รถเพื่อการพาณิชย์ 47,583 คัน ลดลง 0.5%ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 37,035 คัน ลดลง 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ส่งผลให้ยอดขายสะสม 8 เดือน ขยับขึ้นไปที่ 448,006 คัน ลดลง 32.9%
โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 40.7% ขณะที่ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง
28.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เป็นผลพวงจากการที่ภาครัฐฯได้ผ่อนคลายให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้
ภายใต้มาตรการที่กำหนด ควบคู่ไปกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้นในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19 เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
และการควบคุมสถานการณ์เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
รวมถึงการเริ่มมีการจัดงานส่งเสริมการขายจากค่ายรถยนต์
สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและผู้บริโภค
ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในเดือนกันยายนมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง