ทีมงานออโต้อาวส์ลองทดสอบสมรรถนะของรถยนต์อเนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เวอร์ชั่นล่าสุด ที่ยังคงบึกบึนด้วยกันชนหน้าขนาดใหญ่ตัดด้วยสีทูโทน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยมขนาดใหญ่ ที่สอดรับกับโคมไฟหน้าแบบ HID ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ และเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ แบบ LED มาพร้อมกระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว เสริมการใช้งานด้วยราวหลังคา และบันไดข้าง เติมเต็มด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว
ด้านท้ายแข็งแกร่งบึกบึนเช่นกัน กันชนท้ายตัดด้วยสีทูโทนเช่นเดียวกับด้านหน้า ไฟท้ายเป็นแบบ LED ที่สอดรับกับฝาท้ายได้อย่างลงตัว เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานด้วยระบบประตูไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี สามารถเตะผ่านเซ็นเซอร์เพื่อเปิด-ปิดประตูท้ายรถ เสริมด้วยสปอยเลอร์บนฝาประตูท้ายพร้อมด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 เพิ่มมิติและสันคมให้กับตัวรถด้วยป้ายโครเมี่ยมบริเวณกลางบานประตูที่สอดรับกับโคมไฟท้าย
ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมหน้าปัดแสดงข้อมูลการใช้อัจฉริยะ ครบครันสะดวกบนแผงหน้าปัดเดียว พวงมาลัยพาวเวอร์แบบช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าปรับน้ำหนักแปรผันตามความเร็ว กว้างขวางสะดวกสบายด้วยเบาะหุ้มหนัง 7 ที่นั่ง เดินเส้นปักแบบใหม่ พร้อมด้วยหลังคาไฟฟ้า Panoramic Moonroof ขนาดใหญ่กว้างกว่าครึ่งของหลังคา ทันสมัยใช้งานได้อย่างสะดวกด้วยเบาะแถวที่ 3 พับด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระให้กว้างยิ่งขึ้น
ทันสมัยด้วยระบบกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทอัตโนมัติ เติมเต็มการใช้งานด้วยกล้องมองหลังขณะถอยจอด พร้อมด้วยเสียงเตือนจากเซ็นเซอร์ช่วยจอด ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา สามารถเชื่อมต่อด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 3 ที่รองรับการสั่งงานแบบภาษาไทยและการแสดงผลเมนูภาษาไทย ผ่านจอแบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Applink, Apple CarPlay และ Android Auto มาพร้อมระบบนำทาง Navigation System และพอร์ต USB 2 ช่อง
ด้านขุมพลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร รีดพละกำลังสูงถึง 215 แรงม้า สร้างแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ได้อย่างลงตัว มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ โหมดพื้นถนนทั่วไป, โหมดพื้นโคลนหรือหิมะ, โหมดพื้นทราย และโหมดพื้นหิน เพื่อสมรรถนะการใช้งานที่ดีที่สุดบนสภาพการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
เสริมความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน, ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System), ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Prak Assist), ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Informatin System), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา และระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน, ระบบตรวจจับลมยาง (Tyre Pressure Monitoring System) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Rollover Mitigation)
สำหรับการทดสอบใช้งานในเมือง เรื่องความคล่องตัวอยู่ในระดับที่น่าพอใจตามไซส์ของตัวรถ เทคโนโลยีเสริมต่างๆช่วยให้การใช้งานสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น คันเร่งและพวงมาลัยใช้งานได้อย่างลงตัว สิ่งที่โดดเด่นและค่านข้างชอบคือความกว้างขวางของพื้นที่เก็บสัมภาระที่สามารถปรับได้หลากหลาย ทั้งยังสะดวกเหนือคู่แข่งในคลาสเดียวกัน ทว่าต้องแลกมาด้วยค่าตัวที่แพงขึ้นเช่นกัน อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและความพอใจถ้าจ่ายไหวก็แนะนำ
ลองใช้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ออกทริปเดินทางก็สามารถทำได้โดดเด่นเช่นกัน ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบายและสมรรถนะการใช้งาน ระบบช่วงล่างถือว่ายอดเยี่ยม พละกำลังเหลือเฟือเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ ทั้งยังนุ่มนวลและมีอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงในระดับที่น่าพอใจ ทว่าความสูงของตัวรถส่งผลให้การขึ้น-ลงนั้นไม่ได้เป็นมิตรกับทุกคน โดยส่วนตัวค่อนข้างชอบกับสิ่งที่ได้จาก ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4X4
ทว่าอยากได้เครื่องยนต์ตัวนี้ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งมีราคาที่ย่อมเยาว์กว่า และตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ไม่ได้ต้องการระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่บางคนอาจจะไม่ได้เคยใช้งานเลยตลอดอายุการใช้งานของรถ เพื่อสร้างโอกาสเพิ่มยอดขายให้กับตนเอง และเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่ไม่สามารถควักเงินจ่ายได้ในราคาที่ค่อนข้างสูง ส่วนในเรื่องของสมรรถนะการใช้งาน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ อย่างไรก็ดีคำตอบที่ดีที่สุดยังคงอยู่ที่การทดลองขับขี่ด้วยตัวเอง
รายละเอียดทางเทคนิค
มิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง (มิลลิเมตร) 4,903 x 1,869 x 1,837
ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร) 2,850
ระยะห่างล้อคู่หน้า / คู่หลัง (มิลลิเมตร) 1,560 / 1,564
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มิลลิเมตร) 225
ระบบพวงมาลัย เพาเวอร์แบบช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า (EPAS)
เครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซี.ซี.) 1,996
แรงม้าสูงสุด (รอบ/นาที) 213/3,750
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร) 500/1,750-2,000
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดา
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบ Terrain Management
ระบบช่วงล่าง หน้า แบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
หลัง แบบคอยล์สปริง พร้อมวัตต์ลิงก์และเหล็กกันโคลง
ระบบเบรก หน้า ดิสก์เบรก มีช่องระบายความร้อน
หลัง ดิสก์เบรก
ล้อ หน้า/หลัง ล้ออัลลอย 20 นิ้ว
ยาง หน้า/หลัง GOODYEAR EFFICIENTGRIP SUV ขนาด 265/50 R20
ราคาจำหน่าย 1,799,000 บาท
