รถต้นแบบ MG Cyberster รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมห้องโดยสารสไตล์ E-sport คันแรกในโลก โดดเด่นด้วยความทันสมัยความอัจฉริยะและก้าวล้ำนำหน้าโดยสืบทอดรูปทรงคลาสสิคของรถเปิดประทุนและจิตวิญญาณของรถยนต์ MGB Roadster ไว้อย่างเต็มขั้น
MG Cyberster คือรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มากับพร้อมห้องโดยสารสไตล์เกมมิ่งคันแรกในโลกสร้างสรรค์โดยทีมนักออกแบบของเอ็มจีโดยสืบทอดรูปทรงคลาสสิคและความเป็นผู้นำเทรนด์ของรถยนต์ MGB Roadster เข้ากับแนวทางการออกแบบใหม่ที่ผสมผสานความลงตัวของ 2 เรื่องราวความแตกต่างระหว่างสุนทรียภาพและจินตนาการเชิงศิลป์ที่สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง
ด้านหน้าของ MG Cyberster สืบทอดดีไซน์สไตล์คลาสสิคของเอ็มจีด้วยไฟหน้าทรงกลมและกระจังหน้าเรียวยาวพร้อมชุดไฟหน้า“Magic Eye” แบบอินเทอร์แอคทิฟและกระจังหน้าที่ออกแบบให้ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้านข้างของตัวรถดูสง่างามด้วยชุดไฟแอลอีดี “Laser Belt” ลงตัวกับล้อดีไซน์ใหม่แบบ “Hacker Blade”เสริมตัวรถโดยรวมให้ดูมีทรงพลังมากยิ่งขึ้น
ด้านท้ายของ MG Cyberster ใช้การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์แบบยุโรปในลักษณะท้ายสั้นหรือ Kammback พร้อมชุดไฟท้ายดีไซน์สุดล้ำแบบ “Red Wing” ด้วยเส้นไฟที่เรียวเล็กดูชัดเจนนอกจากนี้การออกแบบโลโก้เรืองแสงไฟเลี้ยวรูปทรงลูกศรและสปอยเลอร์หลังที่ฝังตัวอยู่ในชิ้นเดียวกันให้ความรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวของรถสปอร์ตอย่างเต็มที่
ภายในของ MG Cyberster สวยงามลงตัวพร้อมการเชื่อมต่ออัจฉริยะรองรับเทคโนโลยี 5G นอกจากนี้ยังให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรและสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที
สำหรับแนวทางการออกแบบภายในจะเป็นแบบ “Digital Fiber” ใช้การวางผังที่นั่งให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางโดยออกแบบตำแหน่งที่นั่งแยกฝั่งซ้ายขวาออกจากกันและมีแผงหน้าปัด LED ขนาดใหญ่พร้อมจอกลางให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้นแผงหน้าปัดแบบชิ้นเดียวที่ผสานหลากหลายธีมไว้ด้วยกันไม่เพียงแค่แสดงข้อมูลสำคัญทั้งหมดแต่ยังให้อารมณ์สปอร์ตคลาสสิคในสไตล์ยุโรปเบาะรองนั่งแบบ Zero-gravity Seat มือจับหุ้มหนังสีแดงที่บริเวณแผงประตูลงตัวกับ Laser Belt ในขณะที่เส้นสายภายในและผิวสัมผัสสร้างโมเมนตัมได้อย่างทรงพลังและรูปทรงที่เร้าอารมณ์ยังเชื่อมโยงจากข้างนอกสู่ข้างในซึ่งทำให้รถทั้งคันมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน
นอกจากนี้เอ็มจีและ Bilibili E-sports ซึ่งเป็นบริษัทด้าน E-Sport รายใหญ่ในจีนยังได้ร่วมกันสร้างค็อกพิทเกมซูเปอร์คาร์รุ่นแรกในอุตสาหกรรมซึ่งมีดีไซน์ภายในที่รองรับการออกแบบเสียงและแสงในธีม E-sport ให้อารมณ์ความรู้สึกเสมือนหนึ่งอยู่ในโลกของเกมอย่างแท้จริงให้ผู้ใช้โดยเฉพาะ Gen Z สามารถผสานโลกความเป็นจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
ทางด้านสมรรถนะ MG Cyberster ติดตั้งแบตเตอรี่ไร้โมดูล (Moduleless Battery) เทคโนโลยี CTP ในเวอร์ชั่นอัพเกรดใหม่ซึ่งให้ระยะการขับขี่ที่ไกลถึง 800 กิโลเมตรสามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 3 วินาทีและมีเทคโนโลยีอัจฉริยะชั้นสูงด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีการอัพเกรดแบบแอคทิฟ (Active-upgrading) และสมาร์ทค็อกพิท (Smart Cockpit) นอกจากนี้ MG Cyberster ยังมีเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 อีกด้วย