ฮุนได
มอเตอร์ (ไทยแลนด์) เสริมความแข็งแกร่งในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ด้วย ฮุนได สตาร์เรีย
ชูความล้ำสมัย ครบครันด้วยนวัตกรรมอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีเสริมความปลอดภัย
มาพร้อม 2 รุ่นทางเลือก เคาะราคาเริ่มต้น
1,729,000 บาท วางเป้าคว้ายอดขาย 10,000 คัน/ปี
“ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
รถยนต์ฮุนได เอชวัน
เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดในตลาดกลุ่มนี้ เอชวันได้มีโอกาสรับใช้คนไทยมากถึง 50,000 ครอบครัวแล้ว วันนี้รถยนต์ดีไซน์ล้ำที่มาพร้อมกับความมีสไตล์
ความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่พร้อมสรรพ ผมเชื่อมั่นว่า สตาร์เรีย จะสามารถครองใจและเป็นผู้นำในตลาดกลุ่มนี้ได้อย่างไม่ยากนัก”
มร.ฮิโตชิ คาเนะโกะ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์)
จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จของฮุนไดในประเทศไทย
โดย
ฮุนได นับเป็นผู้นำตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย หลังการทำตลาดของรุ่นก่อนหน้าอย่าง
ฮุนได เอชวัน และฮุนได แกรนด์สตาร์เร็กซ์
ที่เดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดขายในตลาดรถอเนกประสงค์ได้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทย
เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างอัตราเติบโตให้กับ ฮุนได ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ล่าสุด
ค่ายฮุนได ได้เสริมทัพด้วย ฮุนได สตาร์เรีย ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่ได้มาโชว์ตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ผ่านมา “หลังจากที่ได้เผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลกเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว
สตาร์เรียได้รับการกล่าวขานเป็นอย่างมากและตอนนี้ก็พร้อมแล้วที่จะทำตลาดในประเทศไทย
มันเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจที่ตลาดไทยได้รับเลือกให้เปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้เป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชีย”
มร.คาเนโกะ กล่าวในวันเปิดตัว ฮุนได สตาร์เรีย
การออกแบบด้านหน้าโดดเด่นด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันแนวนอนขวางบริเวณสองข้างของกระโปรงหน้า
เพื่อเข้ากับกระจังหน้าที่กว้างลายตาข่าย ดูแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ยังเน้นความสวยงามด้วยไฟคู่หน้าทรงลูกบาศก์
และได้ใช้สีภายนอกด้านหน้าเป็นสีเดียวกันทั้งหมดเพื่อเน้นความเรียบง่ายแต่ทันสมัย
ธีมการดีไซน์ถ่ายทอดไปถึงด้านหลัง
ด้วยบานกระจกที่กว้างตัดขอบด้วยไฟท้ายแนวตั้ง พร้อมติดตั้งไฟแบบ Parametric
Pixel ที่เป็นเอกลักษณ์ของฮุนได
กันชนท้ายตั้งอยู่ในระดับต่ำช่วยให้ขนสัมภาระเข้า-ออก ได้ง่ายมากขึ้น
ภายในให้ความสำคัญกับทัศนวิสัยของคนขับและความสะดวกสบายของผู้โดยสาร
ขณะเดียวกันก็ยังคงคุณสมบัติของรถยนต์อเนกประสงค์ไว้อย่างครบถ้วน การออกแบบ beltline
ที่ต่ำกระจกแบบพาโนรามิค ทำให้รู้สึกเปิดกว้างขณะโดยสารอยู่ในรถบริเวณคอทพิทของผู้ขับขี่
ออกแบบให้ทันสมัย ด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง
และสวิตช์เปลี่ยนเกียร์ระบบไฟฟ้า มาตรวัดค่าดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้วติดตั้งบริเวณด้านบนของแผงคอนโซล เพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่มากขึ้น
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลขนาด
2.2 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
มอบกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า แรงบิดที่ 431 นิวตันเมตร ทรงพลัง
นอกจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงระบบระบายความร้อนด้วยอินเตอร์คูลเลอร์และกังหันเทอร์โบชาร์จเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแรงบิดในรอบเครื่องยนต์ต่ำ
นอกจากนี้เพื่อเป็นการปรับปรุงสมรรถนะการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นจึงได้ใช้ช่วงล่างแบบมัลติ-ลิงค์ด้านหลัง
ปรับองศาและระดับของ shock absorber เพื่อเพิ่มความนุ่มนวล
พร้อมอัพเกรดคาลิปเปอร์เบรกและจานดิสก์เบรก
สตาร์เรียติดตั้งแอร์แบคจำนวน 6 ตำแหน่ง ทุกที่นั่งติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน มีให้เลือกใช้ 2 รุ่นได้แก่ รุ่น S ราคา 1,729,000 บาท และ 1,999,000 บาท สำหรับ รุ่น SEL “เรามีความเชื่อมั่นว่า สตาร์เรีย จะเป็นตัวเลือกของรถยนต์อเนกประสงค์ที่ยอดเยี่ยม และได้ตั้งเป้ายอดขายของรถยนต์คันนี้ประมาณ 10,000 คันต่อปี” มร.คาเนโกะ ปิดท้าย