Connect with us

Car

“มาสด้า” ประกาศสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ “ลิเธียม-ไอออน”

“มาสด้า” ประกาศสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ “ลิเธียม-ไอออน” รูปทรงกระบอก
ณ เมืองอิวาคุนิ จังหวัดยามากูชิ เพื่อประกอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก

ฮิโรชิม่า – ประเทศญี่ปุ่น, วันที่ 9 มกราคม 2568 – มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศเดินหน้าเต็มกำลังต่อแผนงานการขยายการลงทุนเพื่อก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ สำหรับผลิตแบตเตอรี่ระดับโมดูล (Battery Module) และระดับแพ็ค (Battery Pack) ชนิดลิเธียม-ไอออน รูปทรงกระบอก เพื่อนำมาใช้สำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ณ เมืองอิวาคุนิ จังหวัดยามากูชิ ประเทศญี่ปุ่น โดยความร่วมมือกันระหว่างมาสด้ากับพานาโซนิค เอเนอร์จี ซึ่งจะเป็นซัพพลายเออร์ในการผลิต และแบตเตอรี่ที่จะทำการผลิตขึ้นมาใหม่นี้จะถูกนำมาติดตั้งเข้าไปในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รุ่นแรกของมาสด้า ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับรถ EV โดยเฉพาะ โดยจะทำการผลิตขึ้นในโรงงานผลิตรถยนต์ของมาสด้า ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ คาดว่ากำลังการผลิตของโรงงานใหม่แห่งนี้จะอยู่ที่ 10 GWh ต่อปี

ภายใต้แผนการดำเนินธุรกิจระยะกลาง 2030 มาสด้าได้เตรียม ความพร้อมสำหรับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าตามกลยุทธ์ Multi-solution เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีที่มีความหลากหลายให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและข้อกำหนดใหม่ เพื่อมีส่วนสนับสนุนและช่วยแก้ไขปัญหาสังคมในการลดภาวะโลกร้อนในระยะยาว

โดยเฉพาะแบตเตอรี่ซึ่งถือเป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า มาสด้า ได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมกับพานาโซนิค เอเนอร์จี เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2566 เพื่อจัดหาแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน รูปทรงกระบอก สำหรับใช้ในการประกอบในรถยนต์ ต่อมาในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา

แผนการขยายการผลิตแบตเตอรี่และการพัฒนาเทคโนโลยีผ่านกระบวนการความร่วมมือในครั้งนี้ ก็ได้รับการรับรองจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น (METI) กลายเป็น แผนงานรับรองการจัดหาแบตเตอรี่ จากแผนงานดังกล่าว จะส่งผลทำให้ มาสด้า สามารถนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมแบตเตอรี่ที่มีลักษณะเฉพาะของ มาสด้า ให้กับลูกค้า โดยจะมาพร้อมกับการออกแบบที่เหนือระดับ ส่งมอบความสะดวกสบาย
และการขับขี่ที่ให้ระยะทางไกลขึ้น

นอกจากนั้น โรงงานใหม่แห่งนี้ยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างการจ้างงานในระดับท้องถิ่น รวมถึงช่วยพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย มาสด้า จะยังคงเดินหน้ายกระดับ “ความสุขในการขับขี่” โดยยึดมั่นในคุณค่าของ “มนุษย์เป็นศูนย์กลาง” ไปจนถึงปี 2030 และมุ่งมั่นที่จะมอบ “ความสุขในการใช้ชีวิต” ด้วยการสร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าตื่นเต้นในชีวิตประจำวันให้กับลูกค้าทุกคน

Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Must See

Advertisement

More in Car