ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) อวดยอดขายครึ่งปีแรก รั้งเบอร์ 1 ตลาดรถยนต์นั่ง ครองส่วนแบ่ง 29.2% ด้วยยอดขาย 41,326 คัน จากภาพรวมตลาดรถยนต์นั่งที่มียอดขายรวมทั้งสิ้น 141,366 คัน ชูโรงด้วย ฮอนด้า ซิตี้ ด้วยยอดขาย 16,950 คัน พร้อมคาดการณ์ว่าตลาดในช่วงครึ่งปีหลังจะเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ และปิดยอดที่ 680,000 คัน
จากพิษวิกฤติโควิด-19
ส่งผลให้ผู้บริโภคไม่กล้าใช้จ่าย และชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้า ภาคธุรกิจทั้งประเทศหยุดชะงักรวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเช่นกัน
ส่งผลให้ยอดขายในครึ่งปีแรกลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ด้วยยอดขายรถยนต์รวมทั้งสิ้น 325,773 คัน ลดลง 38.7% โดยเป็นตัวเลขของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคค
141,366 คัน ซึ่งลดลงจากปีก่อน 41.8%
อย่างไรก็ดี
ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ยังสามารถเดินหน้าเก็บยอดขาย และมีอัตราการเติบโตเหนือภาพรวมของตลาดรถยนต์นั่ง
ด้วยยอดขายทั้งสิ้น 41,326 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 29.2% รั้งอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
มีอัตราลดลง 36.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับยอดขายรถยนต์ฮอนด้า
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ฮอนด้า ซิตี้ ยังได้รับความนิยมและครองเบอร์ 1 ในกลุ่มซับคอมแพคท์ซีดาน
ด้วยยอดขาย 16,950 คัน ครองส่วนแบ่ง 39.3% ขณะที่ ฮอนด้า ซีวิค และฮอนด้า ซีวิค
แฮทช์แบ็ก ยังเป็นผู้นำในกลุ่มคอมแพคท์คาร์ ด้วยยอดขาย 8,656 คัน
คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 56.7%
รวมถึง
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ครองอันดับ 1 กลุ่มรถยนต์สปอร์ตเอนกประสงค์ มียอดขายสะสม 3,667
คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 33% รวมถึง ฮอนด้า ซีอาร์-วี ที่รั้งจ่าฝูงกลุ่มรถยนต์สปอร์ตเอนกประสงค์ขนาดใหญ่
ด้วยยอดขายสะสม 1,978 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 43% ปิดท้ายด้วย ฮอนด้า แอคคอร์ด ที่โดดเด่นในกลุ่มรถยนต์ครอบครัว
มียอดขายสะสม 2,270 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 45.3%
โดย
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล
(ประเทศไทย) จำกัด ได้คาดการณ์ว่า “ในช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์โควิดในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย
ทิศทางตลาดของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าในช่วงต้นปีแรก
แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดยังมีความอ่อนไหวหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดซึ่งอาจทำให้ประชาชนกลับมาระมัดระวังการใช้ชีวิตและการใช้เงินอีกครั้ง”
“ฮอนด้าได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินงานในหลายด้านเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าในยุคใหม่
และยังคงมาตรการ Social Distancing ในโชว์รูมและศูนย์บริการ
รวมถึงทุกพื้นที่ในการดำเนินธุรกิจอย่างเข้มงวดต่อไป และคาดว่าตลาดรถยนต์รวมในปี
2563 จะมียอดขายรวม 680,000 คัน ลดลงจากปีก่อน 32% โดยเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 304,000 คัน ลดลงจากปีก่อน 35%”