Connect with us

Car

[Review] ALL NEW MAZDA BT-50 ดีไซน์เข้าตา…สมรรถนะยังขัดใจ

รูปร่างหน้าตาภายนอกโดยส่วนตัวค่อนข้างชอบ ส่วนใครจะเห็นตามหรือเห็นต่างก็ว่ากันไป ภายในห้องโดยสารดูเรียบหรูและจัดวางได้ดีในระดับที่น่าพอใจ ให้ความรู้สึกเหมือนรถเอสยูวีมากกว่ารถกระบะ ส่วนเรื่องสมรรถนะการขับขี่เนื่องด้วยทุกสิ่งอย่างที่ยกมาจากพาร์ทเนอร์ ผลลัพธ์จึงออกมาไม่ต่างทั้งในเรื่องของเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงช่วงล่างและพวงมาลัย ซึ่งส่วนตัวยังคิดถึงและชื่นชอบฟีลลิ่งการขับขี่ที่เฟิร์มกว่าในผลผลิตที่ออกมาจากโรงงานของมาสด้ามากกว่า  

เจเนอเรชันล่าสุดของ บีที-50 รถกระบะค่ายมาสด้า เผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ประเทศออสเตรเลียช่วงกลางเดือนมิถุนายน ปี 2563 ซึ่งเป็นผลผลิตจากโรงงานของอีซูซุ พาร์ตเนอร์ที่จับมือเพื่อพัฒนารถกระบะ 1 ตันร่วมกันนับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ก่อนที่อีซูซุดีแมคซ์ เวอร์ชันล่าสุดจะเปิดตัวในบ้านเราเป็นที่แรก ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่าน

ล่าสุด มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ตอบคำถามถึงช่วงเวลาของรถกระบะค่ายมาสด้า ด้วยการชวนสื่อมวลชนสายยานยนต์ลอง ออล นิว บีที-50 ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก่อนเปิดตัวและทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ ซึ่งเป็นการทดสอบสั้นๆ บนสนามทดสอบแบบปิด เขย่ากระแสก่อนเปิดตัวเป็นแนวทางเดียวกันกับที่ใช้กับ มาสด้า3 ก่อนหน้านี้

สำหรับ ออล นิว บีที-50 ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด โคโดะ ดีไซน์ เช่นเดียวกับรถยนต์มาสด้ารุ่นอื่นๆ ด้วยคอนเซปต์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานความงดงามเข้ากับความหนักแน่น โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่คุ้นตาเสริมความพรีเมียด้วยวัสดุโครเมียม สอดรับกับโคมดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมซิกเนเจอร์วิงส์และไฟหน้า LED รูปทรงกระบอก เติมความแข็งแกร่งด้วยกันชนหน้ารูปทรงบึกบึนพร้อมไฟตัดหมอกรูปทรงตั้ง

เพิ่มมิติให้กับตัวรถด้วยสันคมด้านข้างตัวรถที่ลากยาวจากบริเวณเหนือซุ้มล้อไปสอดรับกับไฟท้าย รวมถึงส่วนเว้าบริเวณชายประตูเสริมทรวดทรงให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี เพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจกมองข้างทูโทน รวมถึงมือจับประตูโครเมียม ด้านท้ายลงตัวด้วยกันชนขนาดกำลังพอดี ส่วนกระบะท้ายเพิ่มมิติด้วยเส้นคมและส่วนเว้า สอดรับกับโคมไฟท้ายรูปทรงกระบอกเช่นเดียวกับไฟหน้า มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 เหนือกระจกหลัง ขณะที่ล้ออัลลอยมีลวดลายที่ต่างกันในรุ่น 4 และ 2 ประตู

ภายในห้องโดยสารออกแบบโดยผสานภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของมาสด้า เข้ากับความทนทานและทรงพลังของรถปิกอัพ ด้วยคอนโซลแนวราบที่ขยายออกไปถึงประตูทั้งสองด้าน แผงคอนโซลหน้ามาพร้อมแผ่นรองหัวเข่า เสริมความเรียบหรูด้วยการเดินตะเข็บด้ายอย่างพิถีพิถันบนแผงหน้าปัด คอนโซลหน้า และแผ่นรองหัวเข่า มาพร้อมกับมาตรวัดแบบแอนะล็อก 2 ชุด โดยมีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่อยู่ตรงกลาง และมีแผงหน้าปัดด้านหลังสีดำสนิท ช่องแอร์และแถบกลางคอนโซลตกแต่งด้วยสีเงินเข้มที่ให้ความสง่างาม

เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานด้วยเบาะนั่งที่สามารถปรับตำแหน่งการขับขี่ได้เป็นอย่างดี รวมถึงหน้าจอแบบสัมผัส Center Display และระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมระบบ Infotainment ทั้งยังครบครันด้วยระบบอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นสูง รวมถึงพวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง กุญแจรีโมตอัจฉริยะ ที่สามารถสตาร์ตเครื่องยนต์ด้วยรีโมต และมีฟังก์ชันเปิดไฟในห้องโดยสารอัตโนมัติ (Welcome Light) รวมถึงมือจับที่ช่วยให้ผู้โดยสารแถวหลังขึ้นและลงจากรถได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ด้านขุมพลังมีให้เลือก 2 พิกัด ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร ขนาด 2,999 ซี.ซี. รีดพละกำลัง 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที สร้างแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที มาพร้อมระบบคอมมอนเรลแรงดันสูงที่ฉีดเชื้อเพลิงที่แรงดันสูงสุดถึง 250 เมกะปาสกาล (MPa) และ VGS เทอร์โบที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีการเคลือบฉนวนที่ลูกสูบและเกียร์ Double-scissors ที่ช่วยลดเสียงรบกวน สิ่งเหล่านี้ถูกรวมอยู่ในเครื่องยนต์จึงทำให้สามารถเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ และช่วยลดเสียงรบกวน

และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.9 ลิตร ขนาด 1,898 ซี.ซี. สร้างพละกำลัง 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที เรียกแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที มาพร้อมระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบหล่อเย็น EGR ถูกติดตั้งมาในฝาสูบ พร้อม Water Jacket ช่องทางระบายความร้อนด้วยน้ำภายในเสื้อสูบและฝาสูบในท่อทางเดิน EGR ซึ่งทั้ง 2 เครื่องยนต์เป็นบล็อกเดียวกันกับร่างอวตารอย่าง ดีแมคซ์

มีให้เลือกใช้ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เพิ่มความแข็งแรงของคันเกียร์เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์ราบรื่น มั่นคง และกระชับมากยิ่งขึ้น ระบบเกียร์อัตโนมัติมีขนาดกะทัดรัด มีชุดตัดต่อกำลังที่มีน้ำหนักเบา และระบบ ล็อกอัพที่ทรงพลัง ซึ่งส่งผลให้รถมีการตอบสนองที่ดีเยี่ยมเมื่อออกตัวและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น โดยในรุ่น 4×4 ใช้เพลาขับที่ทำจากอะลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบา ทั้งยังมาพร้อมกับระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า ที่ช่วยเพิ่มพลังขับเคลื่อนสำหรับการขับขี่บนถนนที่ขรุขระ

ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ และชุดแหนบบริเวณด้านหลัง ในรุ่นยกสูงมีการเสริมตัวยึดด้านหน้ากันโคลงเพิ่มความสมดุลให้กับตัวรถ ลดเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง ด้วยการติดตั้งแผงคอนโซลกลางที่ยึดกับพื้นตัวถัง ทั้งยังได้เสริมโฟมเข้าไปภายในเสาเพื่อช่วยดูดซับเสียงจากแผงประตูด้านข้าง รวมไปถึงพรมปูพื้นและฉนวนได้ถูกผลิตขึ้นเป็นชิ้นเดียวกันทำให้สามารถดูดซับเสียง ระบบห้ามล้อด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก สำหรับรถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 มีทั้งหมด 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 17 นิ้ว และ 15 นิ้ว ส่วนด้านหลังใช้ดรัมเบรกขนาด 15 นิ้ว

Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Must See

Advertisement

More in Car