ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย เตรียมสานต่ออัตราเติบโตด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ ตั้งเป้าคว้ายอดขาย 30,000 คัน นำทัพโดย ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นปรับโฉม ที่เตรียมเปิดตัวในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ พร้อมเดินหน้าขยายเครือโชว์รูมและศูนย์บริการ รองรับความต้องการของผู้บริโภคต่อเนื่อง
ในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมยานยนต์ประเทศไทยโดนพิษโควิด-19 เล่นงานอย่างหนัก ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดปิดตัวเลขที่ 793,021 คัน ลดลง 21.29% เมื่อเทียบกับปี 2562 ทว่า ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย
เป็นหนึ่งใน 3 แบรนด์ที่ยังคงมีอัตราเติบโตสวนทางตลาด ด้วยยอดขาย
25,528 คัน ขยับเพิ่มขึ้นถึง 7% และครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่
3.22% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
จำแนกเป็น
ซูซูกิ สวิฟท์ ทั้งสิ้น 10,320 คัน ลดลงจากปีก่อน
12.74%, ซูซูกิ เซเลริโอ 4,351 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 195.18%, ซูซูกิ เซียส 3,047
คัน ลดลงจากปีก่อน 35.29%, ซูซูกิ เออร์ติก้า 2,766 คัน ลดลง 23.15%, ซูซูกิ
เอ็กซ์แอลเซเว่น เปิดตัวที่ 2,560 คัน, ซูซูกิ แครี่ 2,433 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 8%
และ ซูซูกิ จิมนี่ 51 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11%
ล่าสุด
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์
(ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงทิศทางการสานต่อความสำเร็จในปีนี้ โดยเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
ในราคาที่เอื้อมถึงทั้งยังคุ้มค่าคุ้มราคา
บวกกับความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่เดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ จะส่งผลให้
ซูซูกิ ยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และวางเป้าไว้ที่ 30,000
คัน
“สำหรับกลยุทธ์ของซูซูกิจะยังคงเดินหน้าสานต่อแนวทางการบริหารงานอย่างครบวงจร
เพื่อบริการลูกค้าและเจาะตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเข้าถึงมากยิ่งขึ้น
ในด้านของผลิตภัณฑ์ เตรียมเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันในตลาดให้มากยิ่งขึ้น
ด้วยการเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่าง ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
นอกจากเป็นการเพิ่มเติมความสดใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมเต็มความต้องการของลูกค้ายังเป็นการต่อยอดความสำเร็จของรถรุ่นนี้ซึ่งเป็นรถที่ได้รับความนิยมของซูซูกิมาโดยตลอดอีกด้วย”
จอมทัพซูซูกิ ทิ้งท้าย
นอกจากการเสริมความแข็งแกร่งด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซูซูกิ ยังเดินหน้าขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการควบคู่ไปด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดได้เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานเพิ่มอีก 19 แห่ง และตั้งเป้าขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศครบ 140 แห่ง ในเดือนมีนาคม 2565