รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข นำทีมลงพื้นที่เยี่ยมชมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 ชื่นชมมาตรการด้านความปลอดภัย เน้นย้ำคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของโคโรน่า ไวรัส 2019 หลังประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมในปีที่ผ่านมา
ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ถูกแช่แข็งด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ส่งผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิตที่ต้องปรับเปลี่ยนไปสู่ความปกติใหม่ รวมถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจที่โดนเล่นงานอย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับทุกภาคส่วน สร้างเอฟเฟกต์เป็นวงกว้างไปทั่วโลก อีเวนต์ต่างๆ ต้องยกเลิกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน รวมถึง บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่ต้องเลื่อนไปจัดในช่วงกลางปี
เมื่อสถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ ส่งผลให้ งานมอเตอร์โชว์ กลับมาอยู่ในช่วงเวลาปกติอีกครั้ง โดยกำหนดจัดงานในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนเช่นเดิม ในบรรยากาศที่ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ฝ่ายจัดงานยังคงคุมเข้มในเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อสร้างความสบายใจและมั่นใจให้กับทุกภาคส่วน ไล่เลียงตั้งแต่บุคลากรที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดงานไปจนถึงผู้บริโภค ภายใต้แนวคิด “SHAPING THE NEXT CHAPTER” หรือ “วิถีชีวิตใหม่ใจเป็นสุข”
ล่าสุด ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 โดย ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ พร้อมด้วย คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและรองประธานจัดงานฯ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ
โดย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “การจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เป็นงานจัดแสดงสินค้าขนาดใหญ่ของประเทศที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมากและหลากหลายกลุ่ม อาจทำให้มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้ หากไม่เตรียมมาตรการรองรับที่ดี เนื่องจากอยู่ใกล้ชิดกันในสถานที่ปิดเป็นระยะเวลานาน และมีจุดสัมผัสร่วมกัน เช่น การสัมผัสตัวรถ การทดลองนั่งหรือขับรถยนต์ การใช้อุปกรณ์ร่วมกัน รวมถึงการเจรจา ซื้อขาย เป็นต้น ดังนั้น ผู้ประกอบการ เจ้าของสถานที่ ผู้จัดงานและผู้ร่วมงาน ต้องคุมเข้มกับมาตรการด้านความปลอดภัยตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด”
“ต้องจัดระบบการคัดกรองการเข้าร่วมงาน หากพบว่ามีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ มีอุณหภูมิร่างกายเท่ากับหรือมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ไม่ควรเข้าร่วมงานและรีบไปพบแพทย์ รวมทั้งทุกคนที่อยู่ในงานต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร ตลอดเวลาที่อยู่ในงานและบริเวณพื้นที่รอเข้างานหรือพื้นที่รอคิว ปรับรูปแบบการแสดงสินค้าเพื่อลดการสัมผัส โดยใช้ e-catalog แทนการใช้โบรชัวร์ มีบริการเจลแอลกอฮอล์ไว้บริเวณต่างๆ อย่างเพียงพอ ทำความสะอาดพื้นที่หรือบริเวณที่มีการสัมผัสร่วมกันโดยเฉพาะประตูรถยนต์ เบาะนั่ง พวงมาลัย”
“สำหรับผู้จัดงาน ควรมีการคุมเข้มมาตรการป้องกันฯ โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่กำกับดูแลตลอดงาน อาทิ กำหนดเส้นทางเข้าและออก จุดสแกนเช็คอินและเช็คเอาต์ ผ่าน แอปพลิเคชั่นไทยชนะ มีจุดคัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้างาน ควบคุมความแออัด เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และกำหนดจุดเข้าบูธ ในส่วนของบริเวณที่ทำสัญญา ควรจัดที่นั่ง 2 ที่นั่ง และมีแผ่นใสกั้นระหว่างกลาง พร้อมจัดเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการ รวมทั้งพนักงานต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่ายยาว
ด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า “สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ภายในอาคาร ควรจัดให้มีระบบระบายอากาศ โดยการติดตั้งระบบฆ่าเชื้อด้วย UV-C มีระบบการระบายอากาศที่หมุนเวียนอากาศตลอดเวลา และควรประชาสัมพันธ์มาตรการ คำแนะนำในการป้องกันการแพร่ระบาดให้แก่ผู้เข้าร่วมงานและผู้ร่วมแสดงสินค้าอยู่เสมอ รวมทั้งทำความสะอาดห้องส้วม อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และอาจเพิ่มความถี่กรณีมีผู้ใช้บริการมากขึ้น”
“โดยเน้นบริเวณจุดเสี่ยง ได้แก่ กลอน ลูกบิดประตู ก๊อกน้ำ อ่างล้างมือ ที่รองนั่งโถส้วม ที่กดโถส้วมหรือโถปัสสาวะ สายฉีดน้ำชำระและพื้นห้องส้วม รวมทั้งจัดให้มีถังขยะที่มีฝาปิดไว้ในสถานที่อย่างเพียงพอ และเก็บรวบรวมขยะเพื่อส่งไปกำจัดอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ควรจัดพนักงานดูแลความสะอาดขณะที่ทดลองนั่งรถทุกครั้ง ประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันและการลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายเชื้อโรค ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในงานก่อน ระหว่างและหลังจบงานทุกวัน”
