เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วย ออล นิว เอ็มจี5 หลังโฟกัสไปทำตลาดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ รวมถึงรถกระบะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เอ็มจีเติมเต็มไลน์อัปด้วยรถรุ่นใหม่ๆ ในรูปโฉมของรถซีดาน โดยมีให้เลือกใช้ 3 รุ่นย่อย พร้อมเคาะราคาขาย 20 กรกฎาคมนี้
ออล
นิว เอ็มจี5 โดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีดำเงาแบบ 3 มิติขนาดใหญ่ ดีไซน์ใหม่ล่าสุด
แสดงความเป็นตัวตนด้วยโลโกเอ็มจีสีโครเมียมไซซ์บิ๊กเอ็มจี
เติมความสปอร์ตด้วยชายกันชนด้านล่างลายเคฟลาร์ มาพร้อมช่องดักลมทั้งด้านซ้ายและขวา
ฝากระโปรงหน้าโดดเด่นด้วยสันมุมและเส้นที่สอดรับกับกระจังหน้า รวมถึงไฟหน้าแอลอีดี
โปรเจกเตอร์ รูปทรงโฉบเฉี่ยว พร้อมเดย์ไทมรันนิ่งไลต์
บอดี้ด้านข้างโฉบเฉี่ยวมีมิติด้วยสันมุมและเส้นที่ชัดเจน
ลากยาวจากไฟหน้าไปยังไฟท้าย รวมถึงซุมล้อด้านหน้าไปยังกันชนท้ายด้วยเช่นกัน
หลังคาลาดจากด้านหน้าไปยังด้านท้ายในสไตล์คูเป้
เสริมความหรูด้วยเส้นโครเมียมล้อมกรอบกระจกด้านบนจากด้านหน้าไปยังท้ายรถ
กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าสีทูโทน พร้อมไฟเลี้ยวและกล้องมองข้าง
เสริมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใบพัด 5 ก้าน
สีดำปัดเงา ขนาด 17 นิ้ว
ขณะที่ฝากระโปรงด้านท้ายลาดเอียงสอดรับกับหลังคาที่ลาดลงด้านท้าย
กันชนท้ายขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยเส้นและสันมุม
เติมความสปอร์ตด้วยวัสดุสีดำด้านบริเวณชายกันชนล่างพร้อมครีบรีดอากาศ
ปลายท่อไอเสียโครเมียมคู่ทรงเหลี่ยมที่มุมกันชนด้านซ้ายและขวา
เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ Leopard
Claw พร้อมด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED รวมถึงไฟทับทิมเส้นตรงตั้งด้านล่างทั้งซ้ายและขวา
ภายในห้องโดยสารตกแต่งสไตล์สปอร์ต
โดดเด่นด้วยหลังคาซันรูฟ แผงคอนโซลหน้า 3D Diamond Design ทันสมัยด้วยหน้าจอ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว
รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และระบบ Android พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสปอร์ต 3 ก้าน มาพร้อมเบาะหนังทรงสปอร์ตปรับด้วยไฟฟ้า 6
ทิศทาง สะดวกสบายด้วยระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด
1.5 ลิตร รีดพละกำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที สร้างแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ผสานการทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด พร้อมระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท
พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังแบบทอร์ชันบีม มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF
(Full Space Frame)
ด้านเทคโนโลยีเสริมความปลอดภัย
ก็ใส่มาให้แบบครบๆด้วย ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน, ระบบกระจายแรงเบรก, ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์,
ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง, ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
และควบคุมการลื่นไถล, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
และระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน
รวมถึง
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา, ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง
และระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง พร้อมด้วยกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง,
เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ, ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ
(Speed Sensing Door Lock)
ขาดไม่ได้สำหรับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล พร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Digital Key สามารถใช้งานรถผ่านกุญแจดิจิทัลโดยรับ-ส่ง โค้ดจากแอพพลิเคชัน i-SMART สามารถสั่งการเปิด-ปิด และสตาร์ตรถยนต์ รวมถึงการส่งกุญแจดิจิทัลให้กับผู้อื่นเพื่อใช้งานรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชัน i-SMART Smart Command หรือระบบสั่งการอัจฉริยะ
สำหรับ
ออล นิว เอ็มจี5 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น C, รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งสิ้น 6 สี ได้แก่ สีเหลือง (Nuclear Yellow), สีขาว (Arctic
White), สีดำ (Black Knight), สีเงิน (Silver
Metallic), สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal
Ash Grey)