ค่ายซูซูกิ ยกเครื่องยนต์สันดาปภายในยังคงเป็นทางเลือกหลักในบ้านเรา พร้อมเดินหน้าสานต่อความสำเร็จ ซูซูกิ เซเลริโอ้ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มเป็นลำดับ เตรีมส่งรถใหม่ลงทำตลาดและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วย ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นพิเศษ ไล่ล่ายอดขาย 30,000 คันในปีนี้
ซูซูกิ
เซเลริโอ เป็นหนึ่งใน คอมแพ็คคาร์ ที่สามารถสร้างอัตราเติบโตได้ในปีที่ผ่านมา และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในกำลังหลักของ
ค่ายซูซูกิ ที่โดนวิกฤติโควิด-19
เล่นงานอย่างเลี่ยงไม่ได้เช่น ส่งผลให้ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งในเรื่องของตัวผลิตภัณฑ์
รวมถึงโปรโมชั่น และงานบริการหลังการขาย
โดย
ซูซูกิ เก็บยอดขายไปได้ทั้งสิ้น 22,378 คัน แม้จะไม่เข้าเป้า ทว่ายังมีสัญญาณบวกจาก เซเลริโอ
ที่เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ด้วยยอดขาย 4,652 คัน รวมถึง เอ็กซ์แอล7
ที่เดินไปในทิศทางบวกด้วยยอดขาย 3,399 คัน และ
แครี่ ที่เติบโตขึ้นด้วยยอดขาย 2,886 คัน ส่วน สวิฟท์
ยังคงเป็นกำลังหลักและขายได้ทั้งสิ้น 8,413 คัน ขณะที่ เซียส
ขายได้ 2,264 คัน และ เออร์ติก้า มียอดขาย 759 คัน
ในปีนี้
ค่ายซูซูกิ เชื่อว่ารถยนต์เครื่องสันดาปภายในยังคงเป็นตัวเลือกหลักในตลาดรถยนต์
อย่างไรก็ดีด้วยทิศทางของยานยนต์ในยุคปัจจุบันซึ่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%
(EV) เริ่มเป็นที่ยอมรับและเติบโตขึ้นเป็นลำดับ
ส่งผลให้ภาครัฐบาลจะหันไปโฟกัสและให้การสนับสนุนรถอีวีมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ค่ายผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นจะไม่ขยับตัวด้วยรถรุ่นใหม่หมด
หรือ ออลนิว ในช่วง 1-2 ปีนี้
สำหรับ
ค่ายซูซูกิ สู้ศึกในปีนี้ด้วยการเติมความสดใหม่ให้กับ ซูซูกิ สวิฟท์ ซึ่งจะเป็นรถเวอร์ชั่นพิเศษ
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและสร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขาย เป็นหนึ่งในทิศทางการทำตลาดของซูซูกิในช่วงที่ผ่านมา
รวมถึงเตรียมเสริมทัพด้วยรถใหม่ ชูความคุ้มค่าคุ้มราคาที่เป็นจุดแข็ง ไล่ล่ายอดขาย
30,000
คันในปีนี้