นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) สร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขายในตลาดคอมแพ็คเอสยูวีด้วย นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ภายใต้ขุมพลังเทคโนโลยีใหม่อย่าง อี-พาวเวอร์ ที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย หลังได้รับความนิยมด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 450,000 คันในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเครื่องยนต์ดังกล่าวได้บรรจุไว้ในรถยนต์ 2 รุ่นอย่าง นิสสัน โน๊ต และ นิสสัน เซเรน่า ที่ใช้ทำตลาดในบ้านเกิด
สำหรับ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ มาพร้อมการออกแบบภายใต้ปรัชญาในการสร้างสรรค์รถยนต์แบบรูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์
หรือ Emotional
Geometry ที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ V-Motion
รวมถึงไฟหน้าและไฟท้ายแบบบูมเมอแรง มาพร้อมหลังคาแบบลอยตัว
และที่บังแดดจากกระจกหน้าไปถึงกระจกข้าง เสาหลังคาท้ายถูกซ่อนพรางสายตาด้วยสีดำที่ผสมผสานเข้ากับกระจกประตูท้าย
ในขณะที่หลังคาแบบลอยตัวถูกขยายออกดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบเพื่อรองรับแผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่ที่ได้เห็นใน
นิสสัน อัลเมร่า กันมาแล้ว รวมถึงหน้าจออินโฟเทนเมนต์, พวงมาลัย และเบาะที่นั่ง ที่ผสานกันได้อย่างลงตัว
โดยหน้าปัดได้รับการออกแบบด้วยลายเส้นของแนวปีกเครื่องร่อนหรือ Gliding
Wing ที่เรียบง่ายและทันสมัย โดดเด่นด้วยจอสีแสดงผลบนหน้าปัดขนาด 7
นิ้ว ติดตั้งอยู่ภายในพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์เต็มรูปแบบ มาพร้อมทางเลือกสีภายในแบบทูโทน
สีดำและสีส้ม โดยส่วนตัวชอบสีดำมากกว่าทูโทน
ด้านขุมพลังอย่าง เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
100%
ที่ขายดีที่สุดในโลกอย่าง นิสสัน ลีฟ ทว่าแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป
ซึ่งประกอบไปด้วย เครื่องยนต์เบนซิน, เครื่องกำเนิดไฟฟ้า, อินเวอร์เตอร์, มอเตอร์ไฟฟ้า
และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน โดยล้อรถจะถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าโดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากเครื่องยนต์สันดาปภายใน
ทว่าเมื่อต้องการเร่งความเร็วหรือขึ้นที่สูงชัน มอเตอร์ไฟฟ้าจะได้รับพลังงานจากทั้งแบตเตอรี่และอินเวอร์เตอร์เพื่อเพิ่มพละกำลัง
นอกจากนี้ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ยังครบครันด้วย นิสสัน
อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ, ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ,
ระบบเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ, ระบบเตือนจุดอับสายตา, ระบบเตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ,
กล้องมองภาพรอบทิศทาง, ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน
และเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ เสริมด้วยระบบเบรกป้องกันล้อล็อก, ระบบกระจายแรงเบรก
และระบบเสริมแรงเบรก ทั้งยังจัดเต็มด้วยถุงลมนิรภัย SRS 6
จุด
สำหรับการทดสอบ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ จัดขึ้นใน 2 สเตชั่นที่จำลองการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ
ยังไม่ได้ลองใช้งานจริง อย่างไรก็ดีจากการทดสอบในช่วงสั้นๆ
ทั้งการวิ่งในรูปแบบเซอร์กิต รวมถึงการขับสลาลอม และการเปลี่ยนเลนแบบกะทันหัน ที่ปล่อยให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับขี่กันจนเบื่อไปข้าง
ภายใต้โหมดการขับขี่ที่แตกต่างกันไป เพื่อหาข้อดีข้อด้อยและจับอาการต่างๆ ของรถ
หลังได้ลองขับ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ทั้งในโหมดแบบปกติ (Normal Mode), โหมดเอส หรือสมาร์ตโหมด
(Smart Mode) รวมถึงโหมดอีโค (Eco Mode) และอีวี (EV Mode) ซึ่งสมรรถนะของรถในแต่ละโหมดการขับขี่จะแตกต่างกันไป
เป็นทางเลือกสำหรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ตามความเหมาะสมรวมถึงคาแรกเตอร์ของการขับขี่ของแต่ละคนที่แตกต่างกันไปเช่นกัน
โดยส่วนตัวแล้ว โหมดเอส หรือสมาร์ตโหมด (Smart
Mode) เป็นทางเลือกที่ชอบที่สุด ทั้งในเรื่องของพละกำลังและการควบคุมรถที่โดนใจกว่าโหมดอื่น
อัตราเร่งกระฉับกระเฉงกดเรียกได้ทันใจในสไตล์ของรถไฟฟ้า รวมถึงเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ
วัน-เพดัล (One-Pedal) ที่จะช่วยเบรกในเวลาที่ยกคันเร่ง
ซึ่งใช้งานได้เป็นอย่างดีและสะดวกยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับ อี-เพดัล
ที่เคยได้ลองใช้ใน นิสสัน ลีฟ ทว่าระบบช่วยเบรกจะไม่ทำงานในโหมดปกติ
ส่วนการขับขี่ในโหมดอีโค (Eco Mode) และอีวี (EV Mode) มีจุดเด่นที่เน้นความประหยัด
ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ปรู๊ดปร๊าดเหมือนสมาร์ตโหมด แต่ก็เพียงพอกับการใช้งาน
การเร่งแซงก็ทำได้น่าพอใจสร้างความมั่นใจให้กับการขับขี่ได้เป็นอย่างดี
สำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้เครื่องยนต์สำหรับปั่นไฟ ซึ่ง
นิสสัน
มองว่าจะมีอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงที่น้อยกว่าการใช้เครื่องยนต์สำหรับขับเคลื่อน
ซึ่ง นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์
สร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดี ทว่าเมื่อมองจากราคาที่ต้องจ่ายในรุ่นท็อปที่ทะลุหลักล้าน
เทียบกับเทคโนโลยี รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ได้นั้นถือว่ายอมรับได้ แต่ออปชันต่างๆ
ก็ต้องแลกมาด้วยเกรดวัสดุที่ไม่น่าพิสมัยสักเท่าไรเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป
อย่างไรก็ดีความพึงพอใจของแต่ละคนนั้นย่อมไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน
หากมองถึงประโยชน์ใช้สอยถือว่าน่าสนใจ
แต่ก็ยังตะขิดตะขวงใจกับวัสดุภายในที่ดูยังไงก็ไม่คุ้มค่ากับรถยนต์ราคาทะลุ 1
ล้านบาท
รายละเอียดทางเทคนิค
มิติตัวรถ
ยาว x
กว้าง x สูง (มิลลิเมตร) 4,290 x 1,760 x 1,615
ระยะฐานล้อ
(มิลลิเมตร) 2,615
ระยะห่างล้อคู่หน้า
/ คู่หลัง (มิลลิเมตร) 1,520
/ 1,535
วงเลี้ยวแคบสุด
(เมตร) 5.1
ระบบพวงมาลัย พวงมาลัยเพาเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า
เครื่องยนต์
(สำหรับสร้างกระแสไฟฟ้า) HR12DE เบนซิน
1.2 ลิตร 3 สูบ 12 วาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ
(ซี.ซี.) 1,198
แรงม้าสูงสุด
(รอบ/นาที) 79/6,000
แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตร) 103/3,600-5,200
มอเตอร์ไฟฟ้า
(สำหรับขับเคลื่อน) EM57 ชนิด AC3 Synchronous Motor
แรงม้าสูงสุด
(รอบ/นาที) 129/4,000-8,992
แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตร) 260/500-3,008
แบตเตอรี่
ลิเธียม-ไอออน
ความจุแบตเตอรี่
(กิโลวัตต์-ชั่วโมง) 1.57
ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ
Single
Speed Gear Reduction
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง
(ลิตร) 41
ระบบช่วงล่าง หน้า แบบอิสระ
แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง แบบทอร์ชั่นบีม
คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรก หน้า ดิสก์เบรก แบบมีช่องระบายความร้อน
หลัง ดิสก์เบรก
ล้อและยาง
ล้ออัลลอยขนาด
17 นิ้ว ยางขนาด 205/55 R17
ราคาจำหน่าย 1,049,000 บาท